อวสาน Windows 10! สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือน รีบอัปเกรดระบบ ก่อนเสี่ยงโดนแฮก

ล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกมาเตือนถึงความเสี่ยงทางไซเบอร์ หลัง Microsoft ประกาศอวสาน Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้งานจะไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยหรือการแก้ไขช่องโหว่อีกต่อไป ส่งผลให้คอมพิวเตอร์ที่ยังใช้ Windows 10 มีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ บทความนี้ ERT จะพาไปดูว่ามีความเสี่ยงอะไรบ้างหากไม่อัปเกรดระบบ และควรป้องกันอย่างไร พร้อมแล้ว เราไปดูกันเลยค่ะ

อวสาน Windows 10 รีบอัปเกรดระบบ ก่อนเสี่ยงโดนแฮก

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 Facebook “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ได้ออกมาโพสต์เตือน “อวสาน Windows 10” เสี่ยงโดนแฮก หลัง Microsoft ยุติการสนับสนุนในวันที่ 14 ตุลาคม 2568 นี้ โดยพล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยต่อประชาชน หลังพบว่าอาชญากรรมทางไซเบอร์ยังคงสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง

เมื่อ Windows 10 สิ้นสุดระยะเวลาการสนับสนุน (End of Support) ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ผู้ใช้งาน Windows 10 จะไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัย (Security Updates) หรือการแก้ไขช่องโหว่ (Vulnerability Patches) อีกต่อไป นั่นหมายความว่าคอมพิวเตอร์ที่ยังใช้ Windows 10 มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกโจมตีต่าง ๆ เช่น มัลแวร์ แรนซัมแวร์ หรือการเจาะระบบเพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ

4 ความเสี่ยงหากไม่อัปเกรด Windows

หากยังใช้ Windows 10 ต่อไปหลังจากที่ Microsoft ยุติการสนับสนุน คอมพิวเตอร์ของคุณอาจตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัยหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีจากมัลแวร์ การขโมยข้อมูล หรือกลายเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์ ซึ่งความเสี่ยงหลัก ๆ มีดังนี้

1. ไม่ปลอดภัยจากภัยคุกคาม : เสี่ยงต่อการถูกมัลแวร์ (Malware) แรนซัมแวร์ (Ransomware) หรือถูกควบคุมเครื่องจากระยะไกลผ่าน Remote Access Trojan (RAT)
2. ข้อมูลส่วนตัวอาจรั่วไหล : เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคาร เอกสารสำคัญ รหัสผ่าน ภาพถ่าย หรือข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่อาจถูกแฮกเกอร์เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
3. เสี่ยงต่อการถูกเรียกค่าไถ่ (Ransomware) : ข้อมูลในเครื่องอาจถูกเข้ารหัสจนไม่สามารถใช้งานหรือเข้าถึงข้อมูลได้ จากนั้นคนร้ายจะบังคับให้จ่ายเงินเพื่อแลกกับการปลดล็อก
4. ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตี : มิจฉาชีพมักใช้เครื่องมือเจาะระบบที่ไม่อัปเดตหรือไม่มีการป้องกัน (Exploit Toolkit) ทำให้ผู้ใช้ Windows 10 ที่ไม่อัปเกรดตกเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์

บทความที่เกี่ยวข้อง : Microsoft เตรียมยุติการสนับสนุน Windows 11 22H2 เตือนผู้ใช้ให้อัปเดตเป็นเวอร์ชั่นใหม่

แนวทางป้องกันการโจมตีไซเบอร์

เพื่อไม่ให้ประชาชนและองค์กรตกเป็นเหยื่อของอาชญากรไซเบอร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้แนะนำแนวทางการป้องกันที่สามารถทำตามดังต่อไปนี้

• อัปเกรดระบบปฏิบัติการ โดยเปลี่ยนมาใช้ Windows 11 หรือระบบปฏิบัติการอื่นที่ได้รับการอัปเดตความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
• ลดการใช้งาน Windows 10 บนอินเทอร์เน็ต หากยังจำเป็นต้องใช้งาน ควรหลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อออนไลน์เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตี
• ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส พร้อมอัปเดตฐานข้อมูลไวรัสเป็นประจำ เพื่อช่วยตรวจจับและป้องกันมัลแวร์รูปแบบใหม่ ๆ
• ระวังการเปิดไฟล์แนบหรือลิงก์ต้องสงสัยที่มาจากแหล่งที่ไม่รู้จัก เพราะอาจซ่อนมัลแวร์หรือฟิชชิ่งเอาไว้
• ตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัยและเดายาก ควรเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นระยะ รวมถึงเปิดการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA)
• ไม่เก็บข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลสำคัญไว้ในเครื่องโดยไม่มีการป้องกัน หากจำเป็นควรเข้ารหัสเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

ERT พร้อมดูแลการอัปเกรด Windows 11 ของคุณ

สำหรับใครที่ต้องการอัปเกรด Windows 10 สู่ Windows 11 ทาง ERT เราพร้อมมอบบริการแบบครบวงจร เพื่อให้การทำงานของคุณปลอดภัยมากขึ้น ทั้งการติดตั้งระบบ การย้ายข้อมูลสำคัญ ไปจนถึงการตรวจสอบความพร้อมของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เราพร้อมดูแลต่อเนื่องตลอดการอัปเกรด เพื่อให้คุณมั่นใจว่าระบบจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

แต่หากองค์กรของคุณยังไม่พร้อมอัปเกรดสู่ Windows 11 ไม่ว่าจะติดปัญหาเรื่องฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือกังวลเรื่อง Bug ทาง ERT เรามีหลักสูตรด้าน Security ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ทีมงานของคุณอัปสกิลให้พร้อมรับมือภัยคุกคาม พร้อมเสริมความมั่นใจให้องค์กรยังคงใช้งาน Windows 10 ต่อไปได้อย่างปลอดภัยในช่วงเปลี่ยนผ่าน สนใจสามารถคลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อปรึกษากับทีมงานของเราได้เลย! 👇

https://www.ert.co.th/training-and-service-quotation/

สรุป

อวสาน Windows 10 กำลังใกล้เข้ามาในเดือนตุลาคม 2568 นี้ การไม่อัปเกรดระบบปฏิบัติการอาจทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณเสี่ยงต่อการถูกโจมตีไซเบอร์ง่ายขึ้น ผู้ใช้งานจึงควรรีบอัปเกรดไปใช้ Windows 11 ที่ปลอดภัยมากกว่า ทั้งนี้ หากคุณได้รับความเสียหายจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์ สามารถแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจในท้องที่ หรือแจ้งความออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th รวมถึงสายด่วน 1441 ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ

ที่มาข้อมูล :

• Facebook สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

💬🙋‍♂️ สอบถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อมาได้ที่

☎ Tel: 02-718-1599

✉ Email: info@ert.co.th

📱 Line: https://lin.ee/wtyQVtl