สรุป 5 เทรนด์ AI แห่งอนาคตจากงาน Google Cloud Next 2025

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ได้เข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม สะท้อนให้เห็นว่า AI ไม่ใช่แค่เทรนด์อีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นเครื่องมือหลักที่องค์กรทั่วโลกต่างพึ่งพา จากงาน Google Cloud Next 2025 ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า AI ช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว บทความนี้ ERT จะพาไปส่อง 5 เทรนด์ AI แห่งอนาคตจากงาน Google Cloud Next 2025 ที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนโลกของการทำงานค่ะ
Contents
5 เทรนด์ AI จากงาน Google Cloud Next 2025
งาน Google Cloud Next 2025 จัดขึ้นในวันที่ 9-11 เมษายน 2568 ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา โดยไฮไลต์สำคัญในปีนี้คือทาง Google ได้เผยโฉมนวัตกรรม AI และ Cloud รุ่นล่าสุดที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้องค์กรใช้งานได้จริงมากขึ้น สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ AI ไม่ได้เป็นแค่ฟีเจอร์เสริมเท่านั้น แต่กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจในทุกมิติ เรามาดูกันว่า 5 เทรนด์ AI สำคัญจากงานในปีนี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
1. AI Assistant อยู่ในทุกแอปของ Google
Google ได้นำ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานมากขึ้น โดยเฉพาะใน Google Workspace ซึ่งทาง ERT เองก็เป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นนี้ ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Docs, Slides หรือ Sheets ต่างก็มีฟีเจอร์ดังกล่าวที่ช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน เช่น การสรุปข้อมูลแบบรวดเร็ว ร่างอีเมลอัตโนมัติ หรือจดบันทึกการประชุมโดยไม่ต้องพิมพ์เอง จุดประสงค์หลักคือการช่วยให้ผู้ใช้โฟกัสกับไอเดียและการตัดสินใจ มากกว่าการเสียเวลาไปกับงานเดิม ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง : Google Workspace vs Microsoft 365 เจ้าไหนตอบโจทย์ธุรกิจมากที่สุด?
2. Data Agents วิเคราะห์และใช้ข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น
Google ปรับ BigQuery ให้ฉลาดขึ้นด้วยการผสานพลังของ AI เข้าไป ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกง่ายขึ้น ผู้ใช้งานสามารถสั่งงานด้วยภาษาธรรมชาติ มองเห็นภาพรวมพฤติกรรมลูกค้า และคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจได้อย่างแม่นยำ ตัวอย่างเช่น
- Spotify ที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้งานนับร้อยล้านคน
- Bayer ที่ร่วมมือกับ Google Trends เพื่อติดตามและคาดการณ์โรคระบาด
ERT มองว่า Google BigQuery ช่วยให้องค์กรตัดสินใจจากข้อมูลจริงได้แม่นยำมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เพียงการคาดเดาเท่านั้น แต่เป็นเทรนด์สำคัญที่ผู้ใช้งานต้องเรียนรู้หรืออัปเดตทักษะอย่างต่อเนื่อง
3. Vertex AI สร้างโมเดล AI แบบพร้อมใช้
Vertex AI ถูกพัฒนาให้ใช้งานง่ายและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น โดยองค์กรสามารถสร้างโมเดล AI เฉพาะทางด้วยการลากวางผ่านอินเทอร์เฟซที่เข้าใจง่าย รองรับการใช้ข้อมูลของตัวเอง รวมถึงสนับสนุนการใช้ LLM หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Gemini, Imagen, Veo หรือ Chirp ที่ช่วยสร้างข้อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอได้แบบพร้อมใช้ ทำให้องค์กรสามารถสร้างคอนเทนต์ได้รวดเร็วมากกว่าเดิม
4. Customer Agents ผู้ช่วยลูกค้าอัจฉริยะ
ในปีนี้ Google เปิดตัว Contact Center AI เวอร์ชั่นใหม่ที่ช่วยให้การสื่อสารกับลูกค้าเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทั้งในรูปแบบข้อความ เสียง หรือวิดีโอ ระบบนี้สามารถประมวลผลข้อมูลได้แบบเรียลไทม์และพูดคุยได้เหมือนมนุษย์จริง ตัวอย่างเช่น
- Wendy’s ที่ใช้ระบบสั่งอาหารแบบ AI ผ่าน Drive-Thru
- Globo ที่เพิ่มอัตราการคลิกวิดีโอในแพลตฟอร์มกว่า 2 เท่า
- Mercedes-Benz ที่เพิ่มประสบการณ์ผู้ขับขี่ด้วยการค้นหาด้วยเสียงในรถ
5. Google Unified Security ปลอดภัยมากขึ้นด้วย AI
Google เปิดตัว Google Unified Security ซึ่งรวมทุกเครื่องมือไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ตั้งแต่ระบบตรวจสอบการตัดสินใจของโมเดล ไปจนถึงการบริหารจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ พร้อมด้วยเอเจนต์ AI ที่ช่วยวิเคราะห์ภัยคุกคามและมัลแวร์แบบอัตโนมัติ โดยมีเป้าหมายให้ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของทีมรักษาความปลอดภัยในองค์กรอย่างเต็มตัว แต่ยังคงยึดหลักความโปร่งใสและจริยธรรม
บทความที่เกี่ยวข้อง : Google Cloud Platform คืออะไร ทำไมองค์กรยุคใหม่ถึงขาดไม่ได้
ทำไม AI ถึงสำคัญต่อทุกองค์กร
เราเชื่อว่า AI ไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ในอนาคตอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานจริงในทุกอุตสาหกรรม จากงาน Google cloud Next 2025 จะเห็นได้ว่า AI ถูกนำมาใช้ธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การคาดการณ์เส้นทางขนส่งในโลจิสติกส์ การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบเรียลไทม์ในสายค้าปลีก การตรวจสอบคุณภาพสินค้าด้วยภาพจากกล้องในโรงงาน หรือการประเมินความเสี่ยงในภาคการเงิน ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า AI ไม่ใช่ “ตัวเลือก” อีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น “เครื่องมือหลัก” ที่ทุกองค์กรต้องมี เพื่อช่วยในการทำงานและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
ธุรกิจในประเทศไทยจะปรับตัวอย่างไร
แม้ว่าเทคโนโลยี AI จะพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับธุรกิจในประเทศไทยอาจไม่จำเป็นต้องลงทุนมากหรือเปลี่ยนวิธีการทำงานทันที สิ่งสำคัญคือการเริ่มจากขั้นตอนที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง แล้วค่อย ๆ ขยายการใช้งานให้เป็นระบบ วิธีนี้จะช่วยให้พนักงานคุ้นเคยกับการใช้ AI มากยิ่งขึ้น โดยแนวทางง่าย ๆ ที่องค์กรสามารถปรับตัวเข้ากับ AI มีดังนี้
- เริ่มนำ AI มาใช้ในการทำงาน เช่น การเขียนเอกสาร การสรุปรายงาน หรือสื่อสารกับลูกค้า
- วางระบบการจัดเก็บข้อมูลให้เป็นระเบียบ เพื่อปูทางในการวิเคราะห์และใช้งาน AI
- เลือกใช้บริการ Cloud ที่มี AI รวมอยู่ในระบบ เช่น Google Workspace หรือ Google Cloud
- จัดอบรมหรือเทรนนิ่งพนักงานให้เข้าใจ AI และสามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างมั่นใจ
สรุป
จากงาน Google Cloud Next 2025 ที่ผ่านมา สรุปได้ว่าองค์กรที่เริ่มใช้ AI ก่อนจะได้เปรียบทั้งด้านต้นทุน ความเร็ว และความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลคือหัวใจของการทำธุรกิจ ERT ในฐานะพาร์ตเนอร์ของ Ingram Micro Thailand พร้อมให้บริการโซลูชั่น AI บน Google Cloud ตั้งแต่การวางระบบ Cloud ไปจนถึง Google Workspace หากสนใจเริ่มต้นใช้ Google Cloud Platform สามารถติดต่อ ERT ให้ช่วยดูแลองค์กรของคุณได้นะคะ 👇
https://www.ert.co.th/training-and-service-quotation/
ที่มาข้อมูล :
- Google : 6 highlights from Google Cloud Next 25
- The Standard : AI กำลังเปลี่ยนโลกธุรกิจไปตลอดกาล ส่องเทรนด์แห่งอนาคตจากงาน Google Cloud Next 2025
💬🙋♂️ สอบถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อมาได้ที่
☎ Tel: 02-718-1599
✉ Email: info@ert.co.th
📱 Line: https://lin.ee/wtyQVtl