รู้จัก! ภาษา R เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ
ภาษา R ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1993 โดย Ross Ihaka และ Robert Gentleman อาจารย์สอนวิชาสถิติ แห่ง University of Auckland, New Zealand ที่ได้พัฒนาภาษา R ขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติและตัวเลข ปัจจุบันภาษา R นิยมใช้กันมากในหมู่นักสถิติด้านการพัฒนาซอฟแวร์และนักวิชาการทั่วโลก
ทำความรู้จักภาษา R
หลักๆ แล้ว พื้นเพเดิมของภาษา R มาจากภาษา S ที่ได้พัฒนาต่อยอดขึ้นมาเป็น Statistical Programming Language โดยภาษา R เป็น Machine-independent ซึ่งสามารถทำงานได้บนแพลตฟอร์มต่างๆ โดยไม่มีข้อจำกัด (Cross-platform Support)
ประเภทข้อมูล (Data Structure) ของภาษา R นั้นมีหลายประเภท แต่ประเภทหลักๆ ที่มีการใช้งานบ่อยๆ และเป็นตัวช่วยสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูลนั้นได้แก่ ประเภทข้อมูลแบบ Vector หรือการเก็บข้อมูลประเภทเดียวกันทั้งหมด เช่น ข้อมูลประเภทตัวเลข (Numeric) ข้อมูลประเภทข้อความ (Text) และรวมถึงการวิเคราะห์ DataFrame หรือข้อมูลในรูปแบบตารางคอลัมน์ (Columns) และแถว (Rows) ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นข้อมูลประเภทเดียวกัน โดย DataFrame ถือว่าเป็นหัวใจของการทำงาน Data Analysis ที่สามารถรวบรวมเซ็ตข้อมูลหรือเซ็ตซอฟต์แวร์ที่แตกต่างกันเข้าด้วยกัน
ด้วย 2 ฟีเจอร์นี้ทำให้ภาษา R จึงมีความยืดหยุ่นในการทำงานที่สูง สามารถใช้วิเคราะห์คำนวณข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ อีกทั้งสามารถสร้างโมเดลการวิเคราะห์ขึ้นมาโดยใช้เวลาไม่มาก นอกจากนี้ภาษา R ยังสามารถทำโมเดลทางสถิติ หรือ Machine Learning ที่เป็นพื้นฐานที่ทำงานกับ Structured Data ได้อีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : ความแตกต่างระหว่าง ภาษา R กับ Python เรียนภาษาไหนดี ?
ภาษา R เป็นภาษาที่เรียนรู้ได้ง่าย Function การเขียนของภาษา R นั้นคล้ายคลึงกับการเขียนฟังชั่นและสูตรใน Excel มาก ซึ่งฟังชั่นง่ายๆ ของภาษา R ที่เราอาจจะคุ้นหูคุ้นตากันสำหรับการสรุปผลสถิติ เช่น
- mean, median, min, max, sum สำหรับหาค่าเฉลี่ย ค่าน้อยสุด มากสุด ผลรวม
- sd, var สำหรับหา standard deviation และ variance
- cor, lm, glm สำหรับหาค่า correlation, linear และ logistic regression
อีกหนึ่งจุดเด่นของภาษานี้คือ R is Free! เราสามารถดาวน์โหลดภาษา R มาใช้งานได้ฟรี (Open Source) โดยเราไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเงินเพิ่ม และยังมี Libraries ให้เราเลือกใช้มากมาย เพราะการเปิด Open Source ทำให้มี Community ที่ใหญ่ เลยมีฟีเจอร์ต่างๆ ให้นำไปใช้และพัฒนาการทำงานเข้ามามากมาย โดยนักพัฒนาสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลจำนวนมาก, Packages ต่างๆ และใช้ประโยชน์จากความสามารถนี้วิเคราะห์ข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบที่มีความซับซ้อนและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้
💖 สำหรับใครที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติมทาง ERT ศูนย์ฝึกอบรมของเราก็มีคอร์สเรียนมากมายมาแนะนำให้เพื่อนๆ เลือกกัน ซึ่งสามารถเลือกเรียนได้ทั้งแบบ Onsite และ Classroom มีทั้งแบบ Private และ Public ด้วยนะ หากใครสนใจสามารถจิ้มลิงก์ด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดได้เลย!! 👇
Ref: geeksforgeeks.org
